Skip to main content

Fujitsu

English

Thailand

Archived content

NOTE: this is an archived page and the content is likely to be out of date.

ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการเคลื่อนย้ายระบบงานที่มีความสำคัญสู่ระบบคลาวด์: IaaS ที่เข้าถึงความต้องการขององค์กร

ในการจัดการกับธุรกิจดิจิตอลมีความจำเป็นที่จะต้องทำการประเมินโครงสร้างพื้นฐานของระบบที่มีอยู่แล้วใหม่ให้มากกว่าที่เคยทำมาทั้งหมด การเคลื่อนย้ายสู่ไฮบริดคลาวด์ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่เราควรจะทำอย่างไรต่อฐานข้อมูล SAP HANA หรือ Oracle ที่ต้องทำงานบนฐานข้อมูลที่มีอยู่จริงเพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เพียงพอต่อการใช้งาน ในความเป็นจริงแล้ว ระบบเหล่านั้นก็สามารถเคลื่อนย้ายไปยังคลาวด์ได้เช่นกัน ในสมุดปกขาวนี้จะแนะนำการให้บริการคลาวด์ที่ช่วยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง

ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ธุรกิจดิจิตอลกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ประเด็นที่ทุกบริษัทต่างก็ต้องเผชิญเมื่อพวกเขาได้ลงทุนอย่างมากทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ก็คือเรื่องที่จะทำอย่างไร พวกเขาจึงจะสามารถลดต้นทุนการลงทุนและภาระด้านการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระบบที่มีความสำคัญอย่างมากต่องาน ในหลายๆ กรณีเงินส่วนใหญ่ที่ถูกใช้ไปกับ ICT ในทุกวันนี้ล้วนเป็นไปเพื่อการทำงานของระบบที่มีอยู่แล้ว และการเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ที่ทำอยู่เป็นประจำ การลงทุนใหม่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากว่าบริษัทไม่สามารถหาหนทางที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้

หนึ่งในหนทางที่จะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการย้ายระบบที่มีความสำคัญอย่างมากต่องานไปสู่คลาวด์สาธารณะ หากว่าบริษัทสามารถใช้งานระบบธุรกิจจากที่นั่นได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อฮาร์ดแวร์ด้วยตนเองอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่มาทดแทนด้วย นอกจากนี้ยังสามารถลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายซ่อมบำรุงที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานของระบบได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะสามารถปล่อยให้ผู้บริการคลาวด์เป็นผู้จัดการดูแลได้

อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะแย้งได้ว่าไม่ใช่ทุกระบบที่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังคลาวด์ได้ มีความเป็นไปได้ที่เครื่องจักรเสมือน IaaS จะไม่สามารถให้ประสิทธิภาพการทำงานตามที่ระบบต้องการได้ซึ่งขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์

ตัวอย่างที่สำคัญคือ SAP HANA การเป็นฐานข้อมูลในหน่วยความจำ (in-memory database) จำเป็นต้องใช้การกำหนดค่าที่ผ่านการรับรองที่จะรับประกันได้ว่ามีหน่วยความจำเพียงพอต่อการใช้งาน และแม้จะเป็นฐานข้อมูล Oracle ก็มีความเสี่ยงที่การเคลื่อนย้ายไปยังคลาวด์จะลดประสิทธิภาพการทำงานลงเนื่องจากจำเป็นต้องทำงานบนฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง

นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำตามความต้องการของบริษัทที่ต้องการตามกระแสในการเปลี่ยนแปลงจาก "การถือครองสู่การใช้งาน" ตามรูปแบบการบริการต้นแบบ ด้วยการย้ายสภาพแวดล้อมเสมือนที่มีอยู่จากศูนย์ข้อมูลของพวกเขาไปยังคลาวด์สาธารณะโดยตรง นั่นเป็นเพราะ VMware และ Hypervisor อื่นๆ ที่มีการใช้งานทั่วไปในระบบขององค์กรอาจจะไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมบนคลาวด์สาธารณะ

บริษัทที่มีระบบเช่นนี้ไม่ควรย้ายไปสู่คลาวด์หรือไม่? ในความเป็นจริง พวกเขาไม่จำเป็นต้องย้าย เพราะการให้บริการคลาวด์ที่มีอยู่นั้นก็สามารถให้บริการตามเงื่อนไขที่จำเป็นเหล่านี้ได้เช่นกัน

การให้บริการคลาวด์ที่มีทั้งเซิร์ฟเวอร์เสมือนและเซิร์ฟเวอร์จริง

ชื่อของบริการคลาวด์นี้คือ FUJITSU Cloud Service K5 หรือเรียกสั้นๆว่า “K5” ฟูจิตสึได้เปิดตัว K5 ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2015 ในฐานะแพลตฟอร์มที่จะช่วย “เปลี่ยนโฉมทางด้านดิจิตอล” ได้สำเร็จซึ่งรวมถึงขั้นตอนทางธุรกิจที่มีความริเริ่มและการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการทำให้เป็นดิจิตอล คุณลักษณะที่เด่นชัดที่สุดของการให้บริการคลาวด์ K5 นั้นก็คือการผสานรวมเทคโนโลยีโอเพนซอร์สใหม่ล่าสุดเข้ากับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและความรู้ที่สั่งสมมานานของฟูจิตสึ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ระบบที่หลากหลายได้บนระบบคลาวด์เดียวกันนี้ นั่นรวมถึงระบบหลักและระบบข้อมูลอื่นๆ ที่มีอยู่ หรือ Systems of Record (SoR) ซึ่งยังคงมีการใช้งานในองค์กรอยู่จนถึงปัจจุบันและ Systems of Engagement (SoE) ที่ใหม่กว่าซึ่งขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนโฉมทางดิจิตอล

“จุดสำคัญของ K5 คือการนำเสนอบริการโดยมุ่งเน้นไปที่บริษัท” ทาคาชิ ไซโต้ รองประธานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารการดำเนินงานของหน่วยงานแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิตอล บริษัท ฟูจิตสึ จำกัด อธิบาย นี่หมายความว่า K5 ได้นำเสนอการสนับสนุนที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูงที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถใช้งานระบบที่มีความสำคัญต่องานอย่างมากบนคลาวด์ได้อย่างมั่นใจ และเพราะ K5 มีการใช้งาน Open-Stack และเทคโนโลยีโอเพนซอร์สอื่นๆ จึงช่วยป้องกันการผูกขาดของผู้ขาย และยังเป็นความสำเร็จของผู้พัฒนาในชุมชนโอเพนซอร์สเทคโนโลยีทั่วโลก ในการนำเสนอต่อบริษัทต่างๆ “เป็นเรื่องสำคัญมากที่บริษัทต่างๆ จะสามารถใช้งาน IaaS ได้อย่างเชื่อมั่น” ไซโต้กล่าว “ด้วย K5 พวกเราทำสิ่งเหล่านี้ด้วยการรับประกันว่าผู้ใช้งานจะมีผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยในระดับสูง”

“ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ K5 ก็คือการนำเสนอทั้งเซิร์ฟเวอร์เสมือนและเซิร์ฟเวอร์จริงเพิ่มเติมจากการใช้งานเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่มีอยู่ในการให้บริการคลาวด์แบบดั้งเดิมทั่วไป” มาซาคาซึ เดงุจิ ผู้จัดการฝ่ายการบริการพื้นฐานที่หน่วยงานแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิตอลของฟูจิตสึอธิบาย คุณลักษณะนี้ของ K5 ช่วยสนับสนุนการย้ายข้อมูล แม้สำหรับระบบที่ยากต่อการย้ายมาสู่คลาวด์ก็ตาม (รูปที่ 1)

เขายังเสริมอีกว่า “ลูกค้าสามารถใช้บริการทั้งหมดของ K5 ได้ โดยใช้เพียง ID เดียว และการบริหารแบบบูรณาการก็สามารถทำได้ผ่านเซอร์วิสพอร์ทัลแบบเดี่ยว”

มีตัวอย่างที่ชัดเจนที่สามารถอธิบายได้ว่าคุณลักษณะเหล่านี้สามารถใช้งานได้อย่างไรหรือไม่?

ทาคาชิ ไซโต้
รองประธานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารการดำเนินงาน
หน่วยงานแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิตอล
บริษัท ฟูจิตสึ จำกัด

การย้ายข้อมูลโดยตรงของ SAP HANA และฐานข้อมูล Oracle สู่ K5

ด้วยการใช้งานเซิร์ฟเวอร์จริง บริษัทต่างๆ สามารถย้ายระบบที่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์จริงในการทำงานเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดมาที่ K5 ได้โดยตรง นี่หมายความว่าแม้แต่ระบบที่กล่าวไปในข้างต้นอย่าง SAP HANA และฐานข้อมูล Oracle ซึ่งต้องใช้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงก็สามารถเคลื่อนย้ายเข้าสู่คลาวด์ได้ง่าย

เดงุจิเสริมว่า “และเพราะตัวเซิร์ฟเวอร์จริงนั้นแยกออกมาจากระบบคลาวด์ของลูกค้ารายอื่น ผู้ใช้จึงสามารถนำใบอนุญาตใช้งาน Oracle ที่มีอยู่มาใช้ด้วยได้” เขากล่าวว่า K5 นำเสนอตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลจริงที่ลูกค้าสามารถเลือกการตั้งค่า RAID ได้เองสำหรับระบบ SAP HANA มีเซิร์ฟเวอร์จริง ประสิทธิภาพสูง 4 แบบนำเสนอ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสิทธิภาพการบริการและการใช้งานในระดับสูง (รูปที่ 2)

สำหรับเซิร์ฟเวอร์เสมือน ตัวเครื่องจักรเสมือนจะทำงานบน Hypervisor ของฮาร์ดแวร์สำหรับลูกค้า นี่ช่วยให้ K5 ตอบสนองต่อความต้องการของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการใช้งานคลาวด์สาธารณะในรูปแบบเดียวกับการใช้งานที่เป็นส่วนตัว มีการให้บริการ 2 แบบ: การบริการมาตรฐานและการบริการสำหรับ SAP โซลูชั่น สามารถใช้ CPU เสมือนได้ถึง 42 ตัว และหน่วยความจำ 245 GB ต่อหนึ่งเซิร์ฟเวอร์เสมือนสำหรับการบริการมาตรฐาน ในขณะที่การบริการสำหรับ SAP โซลูชั่นก็สามารถใช้ CPU เสมือนได้ถึง 42 ตัว และหน่วยความจำ 245 GB ได้เช่นเดียวกัน

ไซโต้เสริมว่าฟูจิตสึกำลังวางแผนที่จะนำเสนอฐานข้อมูล Oracle ในฐานะฟังก์ชั่น PaaS “พวกเราเองก็คาดหวังที่จะนำเสนอ K5 RDS (Oracle) (ชื่อชั่วคราว) ต่อลูกค้า โดยเป็นตัวเลือกการบริการที่สามารถใช้ SQL และ APIs ในการเชื่อมต่อ K5 สำหรับการใช้งานฐานข้อมูล Oracle ซึ่งทำงานอยู่บน Oracle Cloud ในศูนย์ข้อมูลของฟูจิตสึเอง เราได้ประกาศความร่วมมือกับทาง Oracle เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 เพื่อที่จะเริ่มทำงานร่วมกันในโครงการนี้และแผนการดังกล่าวจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017”

มาซาคาซึ เดงุจิ
ผู้จัดการ
ฝ่ายการบริการพื้นฐาน
หน่วยงานแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิตอล
บริษัท ฟูจิตสึ จำกัด

* เซิร์ฟเวอร์เสมือนสำหรับทั้งการบริการมาตรฐานและ SAP โซลูชั่น นำเสนอฟีเจอร์พื้นฐานหลักๆ ที่เหมือนกัน
ภาพที่ 1: การให้บริการทั้ง 3 ประเภทที่นำเสนอโดย IaaS ของ K5 มีเซิร์ฟเวอร์เสมือนและเซิร์ฟเวอร์จริงที่ให้บริการโดยเฉพาะเพิ่มเติมจากเครื่องจักรเสมือนที่มีอยู่ในการให้บริการระบบคลาวด์ทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องจักรเสมือนมาตรฐานที่สามารถใช้ได้ผ่าน K5 ต่างก็ได้รับการออกแบบให้พิจารณาถึงการเคลื่อนย้ายข้อมูลระบบที่มีความสำคัญอย่างมากต่องานด้วย ซึ่งพร้อมให้บริการไม่ว่าจะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือสำหรับ SAP โซลูชั่นก็ตามการตั้งค่าทรัพยากรอย่างหลากหลายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้ CPU เสมือนได้ถึง 16 ตัว พร้อมด้วยหน่วยความจำตั้งแต่ 512 MB ไปจนถึง 128 GB และมีทั้ง ระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux

รับประกันความปลอดภัยด้วยการฝังมาตรการรับมือด้านความปลอดภัยในการดำเนินงานการบริการ

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าได้มีการดำเนินการหลายๆ อย่างเพื่อช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลของระบบต่างๆ มายัง IaaS ของ K5 ได้ แต่เรื่องของความปลอดภัยล่ะ? จะสามารถรักษาความปลอดภัยสำหรับฐานข้อมูลหลักที่เคลื่อนย้ายข้อมูลมายัง K5 ได้มากกว่าระบบที่ติดตั้งอยู่ภายในขององค์กรหรือ?

ฟูจิตสึได้เริ่มจัดการในเรื่องนี้ด้วยการนำเสนอ Trend Micro Deep Security ในฐานะการให้บริการในขั้นแรก ซึ่งมีบริการ Anti-malware, ไฟร์วอลล์, IDS/IPS, การตรวจสอบประวัติเว็บ (web reputation),การตรวจสอบล็อกและฟังก์ชั่นการตรวจสอบที่ครอบคลุม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ได้โดยอิสระ ยิ่งไปกว่านั้น K5 ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ IT Health Check ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยที่รัฐบาลของสหราชอาณาจักรได้ประกาศขึ้นนอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานระบบข้อมูลศูนย์อุตสาหกรรมการเงิน (FISC) ในด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ฟูจิตสึยังวางแผนจะขอรับการรับรองของ Service Organization Control 2 (SOC 2) และ Payment Card Industry Data Security Standard (PCI DSS) ในปี ค.ศ. 2017 อีกด้วย

นอกเหนือจากข้างต้น ระบบยังมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ 24 ชั่วโมงตลอดทั้งวันและ 365 วันตลอดทั้งปี ด้วยการสนับสนุนที่เข้มแข็งจาก Fujitsu Cloud CERT ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความปลอดภัยของคลาวด์โดยเฉพาะ (รูปที่ 3)

“ด้วย K5 พวกเราจะรับมือกับการคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปมาด้วยการวินิจฉัยความเสี่ยงอยู่เสมอ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ จัดการ สอดส่อง และตรวจจับความเสี่ยงและข้อมูลที่เกี่ยวข้องบนแพลตฟอร์มการบริการคลาวด์” เดงุจิกล่าว “ด้วยการฝังมาตรการรักษาความปลอดภัยในระบบการดำเนินงานของพวกเรา และไม่ใช่เพียงให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยเท่านั้น แต่พวกเรายังสามารถให้บริการคลาวด์ที่ลูกค้าสามารถใช้งานโดยมั่นใจได้ว่าระบบของพวกเขานั้นจะปลอดภัย”

ในปี ค.ศ.2018 ฟูจิตสึได้วางแผนที่จะเริ่มให้บริการแดชบอร์ดอัจฉริยะ (Intelligent Dashboard) บริการที่จะแสดงภาพสถานะการทำงานของ IaaS ตามเวลาจริง (ภาพที่ 4) แดชบอร์ดนี้จะช่วยให้สามารถป้องกันการเกิดปัญหาได้ง่ายขึ้นเพราะจะแสดงสถานะของระบบออกมาเป็นภาพกราฟิกช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวม วิเคราะห์ และมองเห็นข้อมูลได้เอง

นำเสนอเซิร์ฟเวอร์จริงประสิทธิภาพสูง 4 ประเภทสำหรับ SAP HANA

ภาพที่ 2: ตัวอย่างของ SAP HANA ที่ใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์จริงแบบใช้งานเฉพาะของ K5 การใช้งานประสิทธิภาพสูงเป็นจริงได้บน K5 ด้วยการใช้งานเซิร์ฟเวอร์หลักที่ให้การบริการร่วมกับสแตนด์บายเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการสลับสายและการจัดเก็บข้อมูล HANA

“เพื่อทำให้มองเห็นการดำเนินงานได้ เราวางแผนที่จะสร้างแดชบอร์ดอัจฉริยะสำหรับลูกค้าเมื่อมีการทดสอบภายในบริษัทเรียบร้อยแล้ว” ไซโต้กล่าว เขายังกล่าวอีกว่าฟูจิตสึจะนำเสนอฟีเจอร์และบริการอื่นๆ สำหรับการดำเนินงานขององค์กรต่อไปในอนาคต

“ภารกิจของ K5 คือการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่องและสร้างการบริการระบบคลาวด์ที่เหนือขึ้นไปอีกขั้น” ไซโต้กล่าวอย่างมุ่งมั่น

ภาพที่ 4: การแสดงภาพการดำเนินงาน (มีกำหนดการใช้งานได้ในปี ค.ศ. 2018) ตัวอย่างสกรีนช็อตของแดชบอร์ดอัจฉริยะ การแสดงการทำงานของ IaaS ในรูปแบบภาพ จะทำให้สามารถตรวจสอบปัญหาได้เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติและช่วยลดความยุ่งยากในการป้องกันการเกิดปัญหา

รูปที่ 3: มาตรการการรักษาความปลอดภัยของ K5 ซึ่งทำงาน 24 ชั่วโมง 365 วันตลอดทั้งปี พร้อมด้วยการวินิจฉัยความเสี่ยง การสอดส่องและมาตรการการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Fujitsu Cloud CERT ซึ่งเป็นทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยของคลาวด์

*เนื้อหานี้ลงใน TechTarget Japan เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017